ถังกรองสแตนเลสขนาด16นิ้ว

ถังกรองสแตนเลส16นิ้ว

เป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญสำหรับระบบกรองน้ำทั้งในบ้านเรือนและโรงงานอุตสาหกรรม ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อนของน้ำและสารเคมี ถังกรองชนิดนี้จึงได้รับความนิยมอย่างสูงในระบบบำบัดน้ำทุกประเภท ทั้งน้ำใช้และน้ำดื่ม

ขนาดและสเปกของถังกรองสแตนเลส

ถังกรองน้ำขนาด 16 นิ้วผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 หรือ 316 แล้วแต่การใช้งาน มีความทนทานต่อสนิมและสารเคมีต่างๆ ภายในถังสามารถบรรจุสารกรองได้ตั้งแต่ 75-100 ลิตร ขึ้นอยู่กับความสูงของถัง

• เส้นผ่านศูนย์กลางถัง: 16 นิ้ว (ประมาณ 40 ซม.)

• ความสูงรวมฝาครอบ: 120-150 ซม.

• ขนาดข้อต่อท่อน้ำเข้า-ออก: 1 นิ้ว หรือ 1.5 นิ้ว

• ความหนาแผ่นสแตนเลส: 1.5-2 มม.

• วาล์วหน้าแปลนหรือบอลวาล์วสแตนเลส

• มีช่องล้างย้อน (Backwash) และล้างเร็ว (Fast Rinse)

• รองรับแรงดันน้ำสูงสุด: 100-150 psi

สเปกที่กล่าวมาทำให้ถังสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน โดยไม่เกิดการรั่วซึมหรือเสียหายง่าย

เหมาะกับงานประเภทใดบ้าง

ถังกรองสแตนเลสขนาด 16 นิ้วเหมาะสำหรับงานกรองหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นงานในครัวเรือน ธุรกิจ SME โรงแรม โรงพยาบาล หรือแม้แต่งานอุตสาหกรรมขนาดกลางถึงใหญ่

• กรองน้ำประปาเพื่อลดคลอรีน สนิม ตะกอน

• กรองน้ำบาดาล ลดความกระด้าง กลิ่น และสี

• ระบบกรองน้ำดื่ม RO/UF

• ระบบน้ำใช้ในโรงงาน เช่น โรงงานอาหารและเครื่องดื่ม

• ใช้ในธุรกิจซักรีด หอพัก หรือรีสอร์ท

ขนาด 16 นิ้วถือว่าเพียงพอสำหรับบ้านที่มีผู้อยู่อาศัย 4-6 คน หรือระบบที่ต้องการกรองน้ำปริมาณมากต่อวัน

สารกรองที่ใช้กับถังกรองสแตนเลส

สารกรองที่ใช้ในถังนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้งาน โดยทั่วไปจะเลือกใช้แบบผสมหรือชนิดเดียว

• สารกรองแมงกานีส (Manganese) – สำหรับกรองเหล็กและแมงกานีสในน้ำบาดาล

• สารกรองแอนทราไซด์ (Anthracite) – ใช้กรองตะกอนขนาดเล็ก

• สารกรองคาร์บอน (Activated Carbon) – ช่วยดูดซับกลิ่น สี คลอรีน และสารอินทรีย์

• สารกรองเรซิ่น (Resin) – ใช้ลดความกระด้างของน้ำ

• ทรายกรองน้ำ (Silica Sand) – รองพื้นเพื่อช่วยในการกระจายการไหล

โดยมากแล้ว การจัดเรียงสารกรองในถังจะเริ่มจากทรายที่ฐาน แล้วตามด้วยสารอื่น ๆ ตามลำดับ เพื่อให้การกรองมีประสิทธิภาพสูงสุด

ขั้นตอนการติดตั้งถังกรองสแตนเลส

การติดตั้งถังกรองต้องทำอย่างถูกต้องเพื่อประสิทธิภาพในการกรองสูงสุดและอายุการใช้งานที่ยาวนาน

1. เตรียมพื้นที่ติดตั้ง – พื้นควรเป็นพื้นราบ แข็งแรง และใกล้แหล่งน้ำ

2. ต่อท่อเข้าและออก – ใช้ข้อต่อขนาดตรงกับวาล์วของถัง พร้อมติดตั้งบอลวาล์วหรือวาล์วควบคุมการล้าง

3. เติมสารกรอง – เรียงสารกรองตามลำดับ โดยใช้ถังเปล่าทดลองไหลเวียนน้ำก่อนใช้งานจริง

4. ล้างสารกรองก่อนใช้ – ทำการล้างย้อน (Backwash) และล้างเร็ว (Rinse) เพื่อชะล้างฝุ่นผง

5. เชื่อมต่อเข้าระบบใช้งาน – เมื่อล้างเสร็จแล้ว ให้ต่อท่อจ่ายน้ำเข้าระบบน้ำใช้ของบ้านหรือโรงงาน

การดูแลรักษาและการเปลี่ยนสารกรอง

ถังกรองน้ำแม้จะทนทาน แต่ก็ต้องมีการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานและให้ประสิทธิภาพกรองคงที่

• ล้างย้อนทุก 7-14 วัน – ช่วยชะล้างตะกอนและสิ่งสกปรกที่สะสม

• ตรวจสอบวาล์วและข้อต่อ – ป้องกันการรั่วซึมหรือแรงดันตก

• เปลี่ยนสารกรองตามอายุ – โดยทั่วไป 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของสารและคุณภาพน้ำที่กรอง

• ไม่ใช้สารเคมีแรง – ในการล้างถัง เพราะอาจทำลายผิวถังหรือวาล์ว

สรุปข้อดีของถังกรองสแตนเลส 16 นิ้ว

• แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน

• รองรับแรงดันสูง เหมาะกับทุกระบบน้ำ

• ปรับเปลี่ยนสารกรองได้หลากหลายตามความต้องการ

• ใช้งานได้ทั้งในบ้านและระบบอุตสาหกรรม

• ดูแลรักษาง่าย ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

ตารางเปรียบเทียบถังกรองสแตนเลส (ขนาด 12", 16", 20")

ข้อแนะนำในการเลือกถังให้เหมาะกับการใช้งาน

• ถัง 12 นิ้ว เหมาะกับบ้านขนาดเล็ก หรือพื้นที่จำกัด

• ถัง 16 นิ้ว เป็นตัวเลือกที่สมดุลที่สุด คุ้มค่า ใช้งานได้หลากหลาย

• ถัง 20 นิ้ว เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลาง-ใหญ่ ที่ต้องการปริมาณน้ำมากและการกรองต่อเนื่อง

ระบบคำนวณสารกรองและอัตราการกรองน้ำ

สูตรคำนวณปริมาณสารกรองในถัง

ปริมาตรถังกรอง (ลิตร) = π × r² × h × 0.001
π = 3.14
r = รัศมีถัง (เซนติเมตร)
h = ความสูงที่บรรจุสารกรอง (เซนติเมตร)
ตัวคูณ 0.001 คือการแปลงลูกบาศก์เซนติเมตรเป็นลิตร

ตัวอย่าง: คำนวณสำหรับถังกรองสแตนเลส 16 นิ้ว

• เส้นผ่านศูนย์กลางถัง: 16 นิ้ว = 40 ซม. → รัศมี = 20 ซม.

• ความสูงสารกรองโดยเฉลี่ย: 100 ซม.

คำนวณปริมาณสารกรอง
= 3.14 × (20²) × 100 × 0.001
= 3.14 × 400 × 100 × 0.001
= 125.6 ลิตร

คำแนะนำ: ควรบรรจุสารกรองจริงที่ประมาณ 70-80% ของปริมาตรทั้งหมด เพื่อเหลือพื้นที่สำหรับการขยายตัวของน้ำและการล้างย้อน

ปริมาณสารกรองแนะนำ: ประมาณ 90–100 ลิตร

อัตราการกรองน้ำ (Flow Rate)

สูตรโดยประมาณ:
อัตราการกรองน้ำ (ลิตร/ชม.) = พื้นที่หน้าตัดของถัง (ตร.ซม.) × 20

• พื้นที่หน้าตัดถัง = π × r² = 3.14 × 20² = 1,256 ตร.ซม.

• อัตราการกรอง = 1,256 × 20 = 25,120 ลิตร/ชม. (สูงสุด)

แต่ในทางปฏิบัติ แนะนำให้ใช้งานที่ 40–60% ของอัตราสูงสุด เพื่อคุณภาพน้ำที่ดี

อัตราการกรองแนะนำ:
▶ 10,000 - 15,000 ลิตรต่อชั่วโมง สำหรับถังกรองขนาด 16 นิ้ว

สรุปค่าคำนวณ (ใช้งานจริง)